คอมพิวเตอร์ที่ในอดีต
คอมพิวเตอร์เมื่อ 20-30 ปีก่อน มีความหลากหลายมาก เนื่องจากสถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีที่ใช้สร้างคอมพิวเตอร์นั้นแตกต่างกันในแต่ละบริษัท สมัยนั้นบริษัทที่พัฒนาคอมพิวเตอร์ก็มีหลายบริษัท พยายามแข่งขันกันตีตลาด ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันที่มีคอมพิวเตอร์เพียงไม่กี่ยี่ห้อที่ครองตลาด ความหลากหลายนี้เองที่ทำให้คอมพิวเตอร์ในสมัยก่อนมีความน่าสนใจ ผมจึงได้รวบรวมคอมพิวเตอร์เก่าเหล่านี้ไว้ให้ศึกษาแล้วครับ

คอมพิวเตอร์ในอนาคต
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อทำงานแทนมนุษย์ เมื่อก่อนเราเรียกคอมพิวเตอร์ว่าสมองกลก็เพราะคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องจักรที่สร้างขึ้นมาให้คิดแทนมนุษย์ แต่เดิมเราเจาะจงให้คำนวณแทนมนุษย์ ต่อมาเรากำหนดให้เครื่องจักรนี้สามารถทำงานอย่างอื่นที่ต้องใช้ความคิด เช่น โยงข้อมูลเข้าด้วยกัน หาข้อมูลในเวป ตรวจตัวสะกดและไวยากรณ์ วินิจฉัยโรค เป็นต้น คอมพิวเตอร์ปัจจุบันทำงานเหล่านี้ได้ดีมาก ในบางกรณีรวดเร็วและถูกต้องกว่ามนุษย์ แล้วคอมพิวเตอร์ในอนาคตเล่าจะเป็นอย่างไร คำตอบขึ้นอยู่กับมนุษย์ แน่นอนเราก็คงพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้ทำงานที่ทำอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก แต่ที่น่าสนใจก็คือ นักวิทยาศาสตร์ตั้งความหวังไว้ว่าจะสร้างคอมพิวเตอร์ในอนาคตให้คิดได้เยี่ยงมนุษย์ เราอาจจะงงว่าหมายความว่าอย่างไร ก็คอมพิวเตอร์ปัจจุบันคำนวณได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์ สามารถเล่นหมากรุกชนะแชมเปี้ยนโลกได้ ถ้าทำให้คอมพิวเตอร์คิดได้เยี่ยงมนุษย์ มิเป็นการลดความสามารถของมันลงหรือ เราต้องเข้าใจเสียก่อนว่า ที่คอมพิวเตอร์ปัจจุบันทำงานหลายอย่างได้ดีหรือเท่าเทียมกับมนุษย์นั้น เรายังถือว่ามันยังไม่อาจคิดได้อย่างมนุษย์ คอมพิวเตอร์ที่เล่นหมากรุกเก่งอาจจะอ่านหนังสือไม่เข้าใจ คิดเรื่องตลกไม่ได้ สร้างทฤษฏีวิทยาศาสตร์ไม่ได้ คอมพิวเตอร์ที่วินิจฉัยโรคอาจไม่เข้าใจที่คนไข้พูด หรือเมื่อคนไข้อธิบายอาการไม่ฃัดเจนก็ไม่อาจเดาหรือคาดคะเนว่าคนไข้หมายความว่าอย่างไร หรืออีกนัยหนึ่ง เราสร้างคอมพิวเตอร์ให้ทำงานเฉพาะอย่าง แต่สติปัญญาของมนุษย์นั้นมีหลายมิติ เราสามารถคำนวณ เข้าใจภาษา แต่งเรื่องเหลือเชื่อ สร้างศิลปวิทยาการ ฯลฯ แน่นอนเราอาจจะสร้างคอมพิวเตอร์ที่รวมเอาความสามารถต่างๆ เหล่านี้ไว้ในเครื่องเดียว กลายเป็นสมองกลที่ทำงานได้ไม่ต่างจากสมองมนุษย์ เมื่อถึงจุดนี้ก็กล่าวได้ว่าคอมพิวเตอร์มีปัญญา เป็นปัญญาที่มนุษย์สร้างขึ้น มิได้เกิดตามธรรมชาติเหมือนปัญญามนุษย์ เรียกได้ว่าเป็นปัญญาประดิษฐ์หรือปัญญาเทียม นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเรียกสิ่งนี้ว่า artificial intelligence ต่อไปนี้เพื่อความสะดวก เราจะเรียกปัญญาเทียมอย่างย่อว่า AI เมื่อเราสามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถหลายมิติได้แล้ว ก็ต้องทำให้มีความสามารถในระดับที่อย่างน้อยเท่ากับความสามารถที่มนุษย์สามัญมี เพราะปัญญาเทียมที่นักวิทยาศาสตร์ต้องการสร้างคือปัญญาของมนุษย์ ไม่ใช่ปัญญาลิง เหตุที่เราต้องการสร้างให้คอมพิวเตอร์ฉลาดเช่นนี้ก็เพราะต้องการให้ทำงานแทนมนุษย์ให้ได้มากที่สุด ผ่อนแรงกายและสมองของมนุษย์ได้อย่างแท้จริง ในขณะนี้คอมพิวเตอร์สร้างความทุกข์ให้กับมนุษย์ คนจำนวนมากได้รับทุกข์จากการต้องเรียนรู้วิธีใช้โปรแกรม เพราะมิฉะนั้นจะสั่งให้โปรแกรมทำงานไม่ได้ และเมื่อโปรแกรมไม่ได้ทำอย่างที่เราต้องการ งานก็เสียหรือล่าช้า เราต้องไปค้นคว้าหรือสอบถามจากคนอื่นว่าจะสั่งโปรแกรมอย่างไร เราสร้างคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเพื่อทำงาน ไม่ใช่เพื่อมาเสียเวลากับการเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์ อุดมคติก็คือ เมื่อเราต้องการใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน เช่นพิมพ์เอกสารฉบับหนึ่ง เราเพียงแต่เดินเข้าไปในห้อง เปิดคอมพิวเตอร์ แล้วพูดว่าจะพิมพ์เอกสาร คอมพิวเตอร์ก็จะเรียกโปรแกรมที่ใช้พิมพ์เอกสารขึ้นมา จากนั้นเราก็พูดสิ่งที่ต้องการให้พิมพ์ คอมพิวเตอร์ก็จะพิมพ์เองโดยเราไม่ต้องกดแป้นพิมพ์ ต้องการจัดรูปแบบเอกสารอย่างไร ก็สั่งด้วยวาจา จะทำอะไรก็ตาม สั่งด้วยวาจาทั้งหมด กล่าวคือเมื่อเราซื้อคอมพิวเตอร์มาใช้ เราไม่ต้องเรียนรู้อะไรเลย แค่รู้ว่าปิดเปิดเครื่องอย่างไรก็พอแล้ว หากเป็นได้เช่นนี้มนุษย์ก็จะบรรลุวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการสร้างคอมพิวเตอร์ และการจะบรรลุวัตถุประสงค์นี้ได้ คอมพิวเตอร์จะต้องเข้าใจความหมายของสิ่งที่เราพูด นั่นคือต้องมีปัญญาอย่างที่มนุษย์มี
คอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การทำงาน เทคโนโลยี ทุกอย่างล้วนต้องเพิ่งพาอาศัยเจ้าคอมพิวเตอร์ตัวนี้แหละ สมัยก่อนย้อนหลังกลับไปเมื่อสัก 15 ปีที่แล้ว คอมพิวเตอร์เริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำงานบางอาชีพ เช่น การออกแบบบ้าน การคำนวณสิ่งก่อสร้าง การควบคุมระบบฐานข้อมูลภายในบริษัทที่มีความจำเป็นต้องเชื่อมโยงข้อมูลถึงกัน เป็นต้น
การเรียนการสอนสมัยก่อน ต้องอาศัยการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม และคอมพิวเตอร์เองก็ยังมีราคาค่อนข้างแพง และความเร็วในการทำงานค่อนข้างจำกัด ทำให้คนเรายังไม่คิดที่จะเอาเจ้าคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยพัฒนาระบบการทำงานให้ทันสมัย แต่ปัจจุบันคอมพิวเตอร์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากขึ้น ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ ทุกสาขาอาชีพเพราะอะไรหรือ ก็เพราะคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน มีระบบการสื่อสารที่ทันสมัย สามารถเชื่อมโยงข้อมูลได้ถึงกันทั่วโลก โดยอาศัยระบบการสื่อสารที่เรียกว่า Internet เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเราจะอยู่ตำแหน่งไหนของโลก เราก็สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ข้อมูลที่ได้รับก็ทันสมัย ทันเหตุการณ์ ไม่ล่าช้า คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมากในชีวิตประจำวันเรา เพราะเรานำคอมพวิเตอร์เข้ามาช่วยระบบการทำงานของเราให้มีความทันสมัย ช่วยควบคุมระบบต่างๆได้อย่างแม่นยำ ไม่ผิดพลาด เช่นการควบคุมการจ่ายพลังงานของโรงไฟฟ้า การควบคุมการเปิดปิดสัญญานไฟจราจร การควบคุมการเบิกจ่ายเงินทางตู้ ATM เป็นต้น การจัดเก็บก็สามารถทำได้โดยไม่เปลืองเนื้อที่มากเท่ากับการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นเอกสารกระดาษที่มีจำนวนมากๆ และข้อมูลเหล่านี้ก็สามารถจัดส่งให้เครือข่ายของบริษัทที่มีอยู่ทั่วโลกได้เพียงไม่กี่นาที ไม่เสียเวลาในการจัดส่งเอกสารข้อมูลเหมือนสมัยก่อนแล้ว